ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับลูกค้าบริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
1.ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย
1.1 ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้เข้าร่วมการประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น
1.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรใด ๆ ของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
2.วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง เช่น
- เมื่อติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
- เมื่อแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่บริษัทฯ และ
- เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัทฯ เป็นต้น
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ
อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากบุคคลภายนอก เช่น
- การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการพื้นที่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ผู้ให้บริการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า/บริการ และผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูล เป็นต้น
2.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น
3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงานของลูกค้า (เช่น ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ) เป็นต้น
3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ (อาทิ สินค้าที่ต้องการ จำนวน และคุณภาพ) และรายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า (อาทิ วันที่สั่งซื้อสินค้า ประเภทสินค้า สาขาที่เกี่ยวข้อง และปัญหาที่พบ) เป็นต้น
3.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น
3.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า เอกสารรับรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารหลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) และหนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และใบส่งสินค้า เป็นต้น
3.7 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
3.8 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมหรือแนวโน้มหรือความชื่นชอบในการซื้อสินค้าและ/หรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
4.วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
วัตถุประสงค์ที่กำหนด | ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนการสมัครสมาชิกหรือการลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเข้าทำสัญญา และการวางหลักประกัน | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัทฯ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์และเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสาร กับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดใด ๆ ข้างต้น | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
4.2 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือ เพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
5.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
(ก) กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ 1 ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการทำการตลาด หรือบริการอื่น ใดที่อาจเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
(ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ
(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล เป็นต้น
(จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป
5.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมก่อน
6.ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของ บริษัทฯ
7.สิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ มีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้
7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
9.วิธีการติดต่อบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่มีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้
บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด
อีเมล: info@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล: dpo@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
10.การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565
[1] กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้ (1) บริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (2) บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด (3) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ โฮลดิ้ง จำกัด (4) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด (5) บริษัท แกแลคซี่ ฟูดส์ แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด
ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับคู่ค้าบริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
1.ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย
1.1 ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ และในกรณีที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง อาทิ ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
1.2 คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางบริษัทฯ หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ อาทิ ผู้ขายสินค้า ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น และ
1.3 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
2.วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น เมื่อกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ หรือช่องทางอื่น เมื่อเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ เมื่อส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ เมื่อสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัทฯ ทางโทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ทางไปรษณีย์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากบุคคลภายนอก เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น
2.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย และลายมือชื่อ เป็นต้น
3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงานของลูกค้า (เช่น ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น)
3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รายละเอียดการส่งสินค้าและวัตถุดิบ เลขที่บัญชี และจำนวนเงิน เป็นต้น
3.5 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ ชนิดของรถยนต์ สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญจ่าย สำเนาใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้น
3.6 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
3.7 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น แนวโน้มในการซื้อสินค้าและ/หรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
4.วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
วัตถุประสงค์ที่กำหนด | ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และการคัดเลือกคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่าง ๆ ของคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาใด ๆ | การปฏิบัติตามสัญญา ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
4.2 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือ เพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
5.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
(ก) กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ 1 ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การตรวจสุขภาพของบุคลากรโดยคู่ค้าทางธุรกิจ การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการด้านสุขภาพ บริการประกันภัย บริการการฝึกอบรม บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย เป็นต้น
(ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี นักคณิตศาสตร์ประกันภัย หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ เป็นต้น
(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (เช่น บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
(จ) ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ เป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
(ฉ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
5.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมก่อน
5.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศดังกล่าว
6.ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัทฯ
7.สิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ มีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้
7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
9.วิธีการติดต่อบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่มีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้
บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด
อีเมล: info@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล: dpo@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
10.การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565
[1] กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้ (1) บริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (2) บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด (3) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ โฮลดิ้ง จำกัด (4) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด (5) บริษัท แกแลคซี่ ฟูดส์ แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด
ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับผู้เข้ามาติดต่อและการรักษาความปลอดภัย บริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
1.ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย
1.1 ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้เข้าร่วมการประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ
1.2 คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางบริษัทฯ หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น และ
1.3 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
2.วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
(ก) เมื่อมาบริเวณพื้นที่ของเรา เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดย
เมื่อเข้าในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ จะมีการเก็บภาพและเสียงจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของบริษัทฯ ทั้งนี้ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ และบันทึกของผู้มาติดต่อ (Visitor records) เมื่อเข้าในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ จะมีการบันทึกข้อมูลของผู้มาติดต่อ หมายเลขทะเบียนพาหนะ
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
2.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ และลายมือชื่อ เป็นต้น
3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
3.3 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น หมายเลขทะเบียนรถ และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
4.วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
วัตถุประสงค์ที่กำหนด | ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัทฯ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
4.2 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือ เพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
5.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
(ก) กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ 1 ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
(ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ
(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล เป็นต้น
(จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป
5.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอม บริษัทฯ จะขอความยินยอมก่อน
6.ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์กับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ
กรณีกล้อง CCTV จะเก็บข้อมูล ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเก็บไว้นานถึง 30 วัน ในกรณีจำเป็น เช่น กรณีที่จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเก็บรักษาไว้เกินกว่า 30 วันและบริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์นั้น ๆ แล้ว
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด
7.สิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ มีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้
7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
9.วิธีการติดต่อบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่มีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้
บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด
อีเมล: info@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล: dpo@cititex.co.th
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 8 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150
10.การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565
[1] กลุ่มบริษัท ซิตี้เท็กซ์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้ (1) บริษัท โนเบิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (2) บริษัท ซิตี้ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด (3) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ โฮลดิ้ง จำกัด (4) บริษัท ซีทีเอ็กซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด (5) บริษัท แกแลคซี่ ฟูดส์ แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด